Sunday, September 2, 2012

พระศรีอาริย์ :พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)


อาตมาขึ้นเครื่องบินผ่านภูอันธพาล ไม่อยากเรียกว่า "ภูพาน" ดังที่เขาเรียกกัน เพราะภูนี้มีแต่พวกอันธพาลทั้งนั้น ได้พิจารณา ถึงเหตุการณ์บ้านเมืองและการสู้รบของทหารเห็นว่า เราทุกคนจะไม่แพ้ จะไม่ต้องตกเป็นทาสของใครๆ ดังที่พวกเราพากันวิตกกังวลกันอยู่ในขณะนี้ แม้แต่ พระบาทสมเด็จ พระ เจ้าอยู่หัวก็ทรงปริวิตกและทรงมีความห่วงใยประเทศชาติบ้านเมืองเป็นอย่าง ยิ่ง ดังจะเห็นได้ว่า เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๑๘ พระองค์พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชินีนาถได้เสด็จไปยังวัดของอาตมา (วัดท่าซุง) และได้ตรัสถาม ความเป็นไป ของบ้านเมืองในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร
อนาคตของชาติ อาตมาได้ถวายพระพรพระองค์ว่า "ประเทศชาติบ้านเมืองของเราจะไม่ตกเป็นทาสของใคร อาตมาขอถวายชีวิตเป็นประกัน เกี่ยวกับเรื่องนี้ นับตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๐ เป็นต้นไป ประเทศไทยจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ความเยือกเย็นจะเริ่มปรากฏ ความมั่งคั่ง สมบูรณ์จะมีขึ้นแก่ประเทศชาติและประชาชน แต่จะยังไม่ปรากฏชัดนัก แต่เราจะมองเห็นได้ชัดๆ ก็ต้องปี พ.ศ. ๒๕๒๔ เปรียบเหมือนอรุณได้ขึ้นดีแล้วและเริ่มฉายแสงให้เห็นความมืดหมดไป"
ที่อาตมากล้ายืนยันต่อพระองค์เช่นนั้น ก็เพราะเหตุผลหลายประการ คือ
ในประการแรก อาตมาได้พบและได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งเป็นสมุดข่อย ซึ่งพระอรหันต์ในอดีตนามว่า พระพุทธโฆษาจารย์ (ลำใย) เขียนไว้ ทำนายชะตาบ้านเมืองก่อนที่กรุงศรีอยุธยาจะแตกเสียอิสรภาพแก่พม่า ก่อนที่กรุงเทพฯ ยังไม่ปรากฏ โดยท่านได้เขียนทำนายไว้ว่า


"กรุงศรีอยุธยาจะต้องถูกข้าศึกตีแตก แจ่จะเสียอิสรภาพไม่นานนัก จะมีคนดีของกรุงศรี อยุธยามากู้ชาติ แต่เมื่อกู้ชาติ ได้แล้ว จะต้องไปตั้งเมืองหลวงอยู่ใหม่" และเหตุการณ์ต่างๆ ของกรุงศรีอยุธยาก็ได้เป็นจริงตามคำทำนายทุกอย่าง
ทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าทั้ง ๑๐ รัชกาล ในสมุดข่อยเล่มเดียวกันนี้ พระพุทธโฆษาจารย์ได้กล่าวทำนายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแก่กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงใหม่ ในวันข้างหน้า ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแต่ละรัชกาลดังนี้
รัชกาลที่ ๑. ทำนายว่า มหากาฬผ่านมหายักษ์
รัชกาลที่ ๒. ทำนายว่า รู้จักธรรม
รัชกาลที่ ๓. ทำนายว่า จำต้องคิด
รัชกาลที่ ๔. ทำนายว่า สนิทธรรม
รัชกาลที่ ๕. ทำนายว่า จำแขนขาด
รัชกาลที่ ๖. ทำนายว่า ราษฎร์ราชาโจร
รัชกาลที่ ๗. ทำนายว่า นั่งทนทุกข์
รัชกาลที่ ๘. ทำนายว่า ยุคทมิฬ
รัชกาลที่ ๙. ทำนายว่า ถิ่นกาขาว
รัชกาลที่ ๑๐. ทำนายว่า ชาววิไล
ความแม่นยำของคำทำนาย เมื่อพิจารณาถึงคำทำนายและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ละรัชกาลก็จะเห็นได้ชัดว่า คำทำนายนั้นถูกต้องเพียงใด
รัชกาลที่ ๑. ผ่าน พระเจ้าตากสิน ขึ้นครองราชย์สมบัติ
รัชกาลที่ ๒. ท่านว่างจากศึกสงครามก็หันมาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ให้พระสงฆ์ค้นคว้าพระธรรมวินัย รวบรวมกัน เป็นการใหญ่
รัชกาลที่ ๓. ท่านมีหัวคิดริเริ่มหาเงินมาสร้างสรรค์บ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองปรากฏมาจนถึงทุกวันนี้
รัชกาลที่ ๔. ท่านสนิทธรรมก็เพราะพระราชาองค์นี้ทรงผนวชถึง ๒๗ พรรษา มีความคล่องตัวในพระธรรมวินัย ทรงไว้ซึ่ง พระไตรปิฎกอย่างแตกฉาน และยังมีความสนิทสนมกับ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) อย่างยิ่ง เป็นคู่บารมีกัน
รัชกาลที่ ๕. จำแขนขาด เราเห็นได้ชัดมาก เพราะเราต้องเสียดินแดนไปหลายครั้งหลายหน โดยพระองค ์ทรงยอมเสียแขนขา ดีกว่าเสียตัวทั้งหมด คือยอมเสียผืนแผ่นดินบางส่วน เพื่อรักษาเอกราชของชาติไว้
รัชกาลที่ ๖. เป็นโจร เพราะทรงใช้จ่ายเงินในท้องพระคลังจนหมดสิ้น แต่อาตมาเห็นว่าพระองค์ทรงเป็นนักชาตินิยม มีพระ ปรีชาสามารถปลุกใจประชาชนให้รักชาติบ้านเมือง เช่นมีเพลงบทหนึ่งทรงพระนิพน์ไว้ว่า "ใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง คงจะ ต้องบังคับขับไส เคี่ยวเข็ญเย็นค่ำร่ำไป ตามวิสัยเชิงเช่นผู้เป็นนาย" ทรงเป็นนักประชาธิปไตย จึงได้ทำทุกอย่าง ให้บุคคลอื่น เห็นว่า พระองค์ไม่ทรงถือพระองค์ เช่น แสดงมหรสพ เล่นโขนกับข้าราชบริพาร ยิ่งกว่านั้นพระองค์ยังสามารถทำให้ประเทศไทยเป็นที่ปรากฏแก่ชาวโลก โดยส่งทหารไปช่วยสงครามโลกครั้งที่ ๑ จึงจำเป็น ต้องใช้เงินมาก แม้จะใช้เงินมาก แต่ประโยชน์ก็เกิดแก่ประเทศชาติอย่างหนัก
รัชกาลที่ ๗. นั่งทนทุกข์ พระองค์เสวยราชสมบัติอยู่ในเกณฑ์ตกอับพอดี เงินในท้องพระคลังก็หมดมาแต่รัชกาลก่อนพระองค์ จึงทรงประทับอยู่บนกองทุกข์ต้องดุลข้าราชการออกเป็นจำนวน มาก เท่านั้นยังไม่พอ ต่อมาพระองค์ ต้องจำพระทัย สละราช สมบัติ ไปนั่งทนทุกข์อยู่ต่างแดน จนสิ้นพระชนม์
รัชกาลที่ ๘. ยุคทมิฬ บ้านเมืองอยู่ในภาวะสงครามโลกครั้งที่ ๒. ประชาชนตกอยู่ในสภาพบ้านแตก อดอยากยากแค้น แสนสา หัส พระมหากษัตริย์ก็ถูกลอบปลงพระชนม์จนสวรรคต
รัชกาลที่ ๙. ทำนายว่า ถิ่นกาขาว เราก็เห็นแล้วว่าฝรั่งมาอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ล้วนแต่คนผิวขาวทั้งนั้น
สำหรับรัชกาลต่อไปคือ รัชกาลที่ ๑๐. ทำนายว่า ชาววิไล หมายความว่า บ้านเมืองเราได้ผ่านยุคเข็ญมาแล้วจะได้ประสบความ เจริญรุ่งเรืองกันเสียที เราจะมั่งคั่งสมบูรณ์เหมือนนานาอารยะประเทศที่เจริญแล้วทั้งหลาย
ราชวงศ์จักรีจะมีเพียง ๑๐ รัชกาลเท่านั้นรึ?
ปัญหาที่น่าคิดต่อไปก็คือว่า
ทำไมพระพุทธโฆษาจารย์จึงทำนายเหตุการณ์บ้านเมืองไว้เพียง ๑๐ รัชกาลเท่านั้น? กรุงเทพมหานครจะมีพระมหากษัตริย์เพียง ๑๐ พระองค์เท่านั้นหรือ?
เป็นเรื่องที่อาตมาสนใจเป็นพิเศษ จึงได้สอบถามเรื่องนี้กับ หลวงพ่อปาน และพระอาจารย์ต่างๆ ซึ่งจิตของท่าน เป็นสมาธิ เข้า ถึงขั้นอภิญญา สามารถที่จะรู้จริงในเรื่อง อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งก็ยังมีอยู่หลายๆ องค์ในขณะนี้

ทุกๆ รูป ที่อาตมาสอบถามจากท่าน ต่างก็ยืนยันตรงกันว่า พระมหากษัตริย์จะยังคงมีอยู่คู่กับชาติไทยตลอดไปอีกนาน มิใช่เพียงแค่ ๑๐ พระองค์เท่านั้น
แต่ที่พยากรณ์ ไว้เพียงแค่นั้น ก็เพราะว่า

เริ่มตั้งแต่รัชกาลที่ ๑๐. เป็นต้นไป บ้านเมืองจะมั่งคั่งสมบูรณ์ร่มเย็นผาสุก ประชาชนในชาติจะร่ำรวย ประเทศไทย จะเป็นประเทศมหาอำนาจประเทศหนึ่ง ซึ่งจะมีแต่ความเจริญตลอดไป ไม่ล้มลุกคลุกคลาน ดังที่ แล้วมา จึงไม่จำเป็นจะต้องพยากรณ์ต่อไปอีก"

No comments:

Post a Comment