Sunday, September 2, 2012

พญานาคอันธพาล กับชฎิลฤาษี ๓ พี่น้อง ตอนที่ ๕


เมื่อสมเด็จพระบรมศาสดาได้ไปเสวยภัตตาหารของอุรุเวลากัสสป เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็กลับมายังราวป่าที่อาศัย ครั้นวันรุ่งขึ้นอุรุเวลากัสสปไปทูลเชิญนิมนต์ทำภัตกิจอีก พระพุทธองค์ได้ตรัสว่า “ท่านจงไปเถิดตถาคตจะตามไปที่หลัง” เมื่ออุรุเวลากัสสปไปแล้ว พระบรมศาสดาจึงเหาะไปนำเอาผลลูกหว้าใหญ่ในป่าหิมพานต์ แล้วทรงเสด็จกลับมายังโรงเพลิงก่อน ที่อุรุเวลากัสสปจะมาถึง ครั้นอุรุเวลากัสสปมาถึงก็ประหลาดใจทูลถามว่า “พระมหาสมณะมาทางใดจึงมาถึงก่อน ? ”

พระพุทธองค์มีพระพุทธฎีกาตรัสบอกไปตามความเป็นจริง อุรุเวลากัสสปก็ดำริครุ่นคิดดุจครั้งก่อน ครั้นทรงกระทำภัตกิจเสร็จแล้วทรงเสด็จกลับราวป่า อันเป็นสถานที่สับปายะเจริญภาวนานุโยคตามเดิม

อยู่มาไม่นาน ครั้งนั้นชฎิลฤาษีลัทธิบูชาเพลิงสำนักอุรุเวลากัสสป พากันก่อไฟ แต่มิอาจผ่าฟืนใส่กองไฟได้ จึงพากันคิดว่า “เหตุทั้งหมดนี้เป็นเพราะฤทธิ์ของพระมหาสมณะกระทำให้เป็นไปแน่” พระพุทธองค์ทรงล่วงรู้วาระจิตของพวกชฎิลฤาษีจึงทรงพระเมตตาตรัสว่า “จงผ่าฟืนตามความปรารถนาเถิด” ชฎิลฤาษีทั้งห้าร้อย จึงผ่าฟืนออกได้โดยง่ายเป็นที่อัศจรรย์ใจยิ่งนัก !

อยู่มาวันหนึ่ง ชฎิลฤาษีทั้งหลายปรารถนาจะบูชาเพลิงแต่ก่อไฟไม่ติด พากันคิดปริวิตกอีกว่า เหตุทั้งหมดนี้เป็นเพราะฤทธิ์ของพระมหาสมณะบันดาลให้เป็นไปแน่นอน เมื่อพระสัพพัญญูเจ้าทรงทราบวาระจิตแล้ว จึงมีพุทธฎีกาตรัสบอกว่า “ขอให้ก่อไฟบูชาเพลิงได้เถิด” ครั้งนั้นเพลิงก็ติดขึ้นทั้ง ๕๐๐ กองพร้อมกันนั้นแล!

ชฎิลฤาษีบูชาเพลิงสำเร็จแล้วจะดับเพลิง แต่เพลิงก็ไม่ดับจึงดำริคิดอีกเหมือนคราวก่อน พระพุทธองค์ทรงล่วงรู้ด้วยเจโตปริยญาณจึงมีพุทธฎีกาตรัสอนุญาตให้เพลิงดับ เพลิงก็ดับพร้อมกันทั้ง ๕๐๐ กอง

ครั้งหนึ่งหมู่ชฎิลฤาษีทั้งหลายลงอาบน้ำ ดำผุดขึ้นลงในแม่น้ำเนรัญชลา สมเด็จพระโลกนาถมุนีผู้ทรงพระมหากรุณาได้ทรงเนรมิตเชิงกรานกองไฟ ๕๐๐ กอง มีไฟลุกโชติช่วงทุกกองเรียงรายไปตามริมฝั่ง เมื่อพวกชฎิลฤาษีขึ้นจากน้ำก็พากกันเข้าไปผิงไฟในเชิงกรานทั้ง ๕๐๐ นั้น

ในกาลวันหนึ่ง มหาเมฆฝนตั้งขึ้นนอกฤดูกาลบันดาลให้ห่าฝนตกลงมาอย่างหนักทั่วชมพูทวีป กระแสน้ำล้นฝั่งเนรัญชลานที ไหลหลากทั่วทุกสารทิศ ฝ่ายอุรุเวลากัสสปมีความปริวิตกว่า น้ำจะท่วมถึงป่าที่พักอาศัยของพระสมณะรูปงามมีฤทธิ์มากหรือไม่หนอ ? จึงลงเรือพาลูกศิษย์รีบไปดูโดยด่วน ก็เห็นเป็นอัศจรรย์ใจ ว่าน้ำนูนขึ้นเป็นกำแพงล้อมอยู่โดยรอบ แลเห็นพระบรมศาสดาเสด็จเดินจงกรมอยู่บนพื้นดินอันแห้งปราศจากน้ำ มีฝุ่นปลิวฟุ้งขึ้นเบื้องบน จึงร้องทูลถามว่า

“พระมหาสมณะสถิตอยู่ ณ ที่นี้หรือ ? ”
มีพุทธฎีกาตรัสว่า “ดูกร กัสสป ตถาคตอยู่ที่นี้” สิ้นพระสุรเสียงแล้วก็เสด็จเหาะขึ้นไปบนอากาศแล้วลอยลงสู่เรือของอุรุเวลากัสสปมาปรากฎอยู่ ณ ที่เฉพาะหน้า ท่ามกลางเหล่าบริวารเป็นอันมากของชฎิลฤาษีนั้น ! แต่อุรุเวลากัสสปยังคงดำริคิดเช่นเดิมอีกว่า “พระมหาสมณะมีฤทธิ์เป็นอันมากเห็นปานฉะนี้ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่เป็นพระอรหันต์เหมือนเราไปได้”

นับตั้งแต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จจากป่าอิสิปตนะมฤคทายวัน มายังอุรุเวลาประเทศประทับอยู่ถึง ๒ เดือน จนตราบเท่าถึงวันเพ็ญปุณณะมีนี้ ได้ทรงแสดงพระอิทธิปาฏิหาริย์ทรมานจิตใจอุรุเวลากัสสปต่างๆโดยอเนกปริยาย แต่อุรุเวลากัสสปก็ยังมีจิตอวดดื้อถือดีสันดานกระด้าง ถือตนถือตัวว่าเป็นผู้วิเศษเป็นพระอรหันต์หาผู้เสมอเหมือนมิได้ จึงทรงพุทธดำริด้วยความเมตตาว่า...

1 comment:

  1. JCM Hub - Home of Gambling - JTM Hub
    JCM Hub is a global 대전광역 출장안마 online 원주 출장안마 casino with sports betting, casino and bingo. Join today 김포 출장마사지 to 충주 출장샵 get your tips and tricks delivered to your 나주 출장안마 home.

    ReplyDelete